บอยออโต้ซาวด์

บทความ

รู้ทันประกันภัย และไฟแนนซ์ เพื่อไม่ต้องตกเป็นเหยื่อ

26-05-2557 13:13:46น.


***** เรื่องรู้ทันพนักงานเคลม*****

                             ปัจจุบันเพื่อนๆ ผู้ใช้รถฯโดยทั่วๆไป ที่ ทำประกันภัยรถยนต์ แล้ว คงไม่อยากจะ เจอ กับพนักงานเคลม ของ บริษัทฯประกันภัย เป็นแน่แท้ เพราะถ้าเจอแล้ว บางท่านที่ไม่มี ประสบกราณ์ตอน รถชนกัน อาจไม่ทราบ เลยว่า จะต้องปฏิบัติตน อย่างไร จึงจะถูกต้อง ซึ่งผู้เขียนใคร่ ขออธิบาย ให้ท่านทราบ ถึงลักษณะของ อุบัติเหตุ ตามอาชีพ ที่พวกเราเรียก เขาว่า พนักงานเคลม ก่อน ว่าโดย ทั่วๆไปแล้ว คนในอาชีพเคลม เขาแบ่ง ลักษณะการเกิดเหตุ ออกเป็นลักษณะใดบ้าง หลักๆดังนี้ 1. เคลมแห้ง หมายถึง เคลมที่ รถเกิดเหตุมานานแล้ว เพ่งมาแจ้งเหตุ เช่น แผลขูดขีด เป็นต้น 2. เคลมสด  หมายถึง เคลมที่ รถชนกันสดๆ และ ยังมีผู้เสียหาย ในเหตุกราณ์ รออยู่ 3. เคลมเสียหายมาก หมายถึง เคลมที่ จะเกิดขึ้นสดๆ หรือ เกิดขึ้นนานแล้ว แต่เสียหายมาก เพิ่งมาแจ้งเหตุ เช่น รถเสียหาย จน ขับไม่ได้ นานมาแล้วเป็น อาทิตย์ เพ่งมาแจ้งเหตุ เป็นต้น  ซึ่งใน ภาคธุรกิจประกันวินาศภัย ปัจจุบันมีทั้งบริษัทฯต่างชาติ และ บริษัทฯ ที่มีธุรกิจที่เอื้อประโยชน์ กันเข้าแข่งขันในการครองตลาดรถ อยู่มาก ผู้บริโภค จึง ไม่อาจจะเลือก โดยเสรี ทางความคิด ได้หมด เพราะ ส่วนมาก ไฟแนซ์ ก็เป็นผู้เกือบจะ บังคับ ให้ตามโปรแกรมการขาย ซะ เป็นส่วนมาก (ไม่รวมรถที่ซื้อเงินสด) จึงไม่รู้เลยว่า บริษัทประกันภัย ที่เขาเลือก ให้เรานั้น ได้มาตราฐาน หรือ จัดให้ตาม ประโยชน์ที่ เซลขายรถ หรือ มารเก็ตติ้ง ของไฟแนซ์ จะได้รับ

 

                              พนักงานเคลม มีหน้าที่ ออก ตรวจสอบอุบัติเหตุ โดยเร็วที่สุด และ บันทึก รายงาน ถ่ายภาพ ที่เกิดเหตุ รวบรวม พยานหลักฐาน ให้ครบถ้วน สมบรูณ์ที่สุด เพื่อเข้าเป็น รายงานแฟ้มอุบัติเหตุต่างๆ นี่ก็คือ หน้าที่หลัก โดยทั่วไป ซึ่งจาก สถิติ การเกิดเหตุ โดยทั่วๆไปแล้ว เรื่องที่จะมี ปัญหากับท่านผู้อ่าน ก็คือ แจ้งเคลมแห้ง เพราะใน สัญญาประกันภัย ได้ระบุไว้ว่า หากเกิดเหตุ ไม่ทราบ คู่กรณี ท่านก็จะต้อง ถูกเก็บ ค่าเงื่อนไข ไม่ทราบ คู่กรณี ยกเว้น เสีย แต่ว่า ท่าน จะพิสูจน์ ให้ บริษัทฯประกัน ทราบว่า ท่าน ไม่ได้ เป็น ฝ่ายถูกละเมิด (ฝ่ายถูก) จากผู้อื่น แล้วไปเรียกเก็บ ค่าเสียหาย เข้ากระเป๋า ของตนซะเองไปแล้ว  ฉะนั้น เวลารถฯ ของท่าน เสียหาย ไม่ว่า จะมาก หรือ น้อย ก็ตามท่าน จะต้องโทรศัพท์แจ้งเหตุไปที่ บริษัทฯประกัน ในทันที และ ต้อง ขอหมายเลขรับแจ้ง และ ชื่อ สกุล ของ พนักงานรับแจ้ง ไว้เป็นหลักฐาน ด้วย ทุกครั้ง เพราะ พนักงานรับแจ้งเหตุ นั้นจะช่วย แนะนำท่าน ในสิ่งที่ ท่าน จะต้อง ทำต่อไปเช่น ถูกชน แล้ว หลบหนีไป ต่อ หน้าต่อตา จะทำอย่างไร ทะเบียนรถ ที่ชน ก็จำ ไม่ได้ อีกซะเลย เป็นต้นพนักงานเคลม บางท่าน จะนำประโยชน์ในสัญญาประกันภัย มาเก็บค่าเงื่อนไขท่าน ซึ่ง หากท่าน คิดว่าจ่าย ไปด้วย ความถูกต้อง แล้ว ก็ควร ขอใบเสร็จรับเงิน จาก บริษัทฯ ที่ท่าน ทำประกัน ไว้เป็น หลักฐานด้วยทุกครั้ง  สิ่งสำคัญ หากท่าน ขับรถชน กับ รถคู่กรณี ที่ไม่มี ประกันภัย และ รถของท่าน เป็น  ฝ่ายถูกแล้ว ท่านควรตรวจสอบ กับ ไปที่บริษัทฯประกันภัย ที่ท่านทำประกันทุกครั้ง ว่า  ตาม รายงาน อุบัติเหตุรถของท่านเป็น ฝ่ายถูกจริง หรือ ไม่  ควรคุย กับ ระดับหัวหน้างาน ของบริษัทฯ นั้นๆเ พราะ ถ้าเป็นฝ่ายถูก ท่านจะได้ รับส่วนลด ประวัติดี ในปีต่อไป ครับ

 

                             ธุรกิจประกันวินาศภัย ในบ้านเรา (เมืองไทย) ยังคงต้อง พัฒนา ยกระดับ มาตราฐานขึ้นอีกมาก  พนักงานเคลม บางบริษัทฯมีจริงๆไม่กี่คน นอกนั้นจะต้องจ้าง บริษัท เซอร์เวย์เยอร์ แปลเป็นไทยว่า บริษัท รับสำรวจภัย ซึ่งมีหน้าที่ รับจ้างทำ เคลม ให้กับ บริษัทประกันภัยต่าๆ ที่ แจ้งเหตุ เข้ามา ซึ่งบาง บริษัท เซอร์เวย์เยอร์ ก็ไม่มีสาขา เรียกกันว่าเกิดเหตุ ที่จังหวัดนี้ก็ ใช้บริการที่นี่ เป็นต้น ซึ่งเป็นอาจจะทำให้ บริการไม่ทั่วถึง ในช่วงเวลาเร่งด่วน หรือ ในช่วงเทศกาล ซึ่ง ต่างกับ บริษัทประกันภัย ที่มีสาขาหรือ ศูนย์บริการคลอบคลุม อยู่ทุกพื้นที่ การให้บริการ จะทำให้ไปถึง ที่เกิดเหตุ ได้รวดเร็ว ขึ้น อีกเรื่อง ที่ถือว่า สำคัญ ก็คือ จรรยาบรรณ ในการประกอบวิชาชีพ ซึ่งรวมถึง เรื่องของ ความรู้ใน ข้อ กฎหมาย ในคดี รถชนกัน และ มารยาท ความเอาใจใส่ ในการบริการลูกค้า ของพนักงาน เป็นต้น เรื่อง พวกนี้ถือว่าเป็น สาระสำคัญ ในการประกอบธุรกิจฃอง บริษัทประกันภัย ให้มีเชื่อเสียงได้ยาวนาน

 

                               บริษัท เซอร์เวยเยอร์ ต่างๆ บาง บริษัทฯ มีมาตราฐาน ราคา ค่าสำรวจ ก็จะ มาตราฐาน  ไปด้วย แต่ปัจจุบัน บริษัท ประกันภัย บางบริษัทฯ ก็ต้องการลดต้นทุน หันไปใช้ บริษัท เซอร์เวยเยอร์ ที่ไม่มี มาตราฐาน มาใช้งาน เพราะ ค่า บริการถูก แต่ ลืม คิดถึง ภาพลักษณ์ของ บริษัทประกันภัยเอง เพราะเวลา ที่ลูกค้าซื้อ ประกันส่วนมาก ก็จะเจอ แต่ เซล หรือ ตัวแทนขายประกัน ไม่เคยเจอ  พนักงานเคลม เลย จะมาเจออีกที ก็ตอนมี อุบัติเหตุ หรือ ตอน แจ้งเคลม นี่แหล่ ซึ่งถ้า บริษัทฯประกันภัย ไหน มีมาตราฐาน ในการบริการที่ดี มาถึงที่เกิดเหตุเร็ว ก็คง จะเป็น เรื่องที่ดี กับ พวกเรา คนใช้รถ

 

                                เคลมฉ้อฉล ปัจจุบัน พวกเราคนใช้รถ ไม่เคย รู้เลย ว่าอุบัติเหตุ จะเกิดขึ้น เมื่อไหร่เมื่อ เกิดขึ้นแล้ว (เบาๆ) ก็ คงไม่ใช่เรื่องยาก แต่ ถ้าเกิดขึ้น หนักๆ แล้ว ผู้ที่จะช่วย ท่านได้มากที่สุด ก็คือพนักงานเคลม นั่นเอง เพราะ อุบัติเหตุ ที่เสียหายมาก มี ผู้คน บาดเจ็บ ล้มตาย มี คดีอาญา เกิดขึ้นความเสี่ยง จะเกิดขึ้น กับผู้ที่ขับขี รถโดยประมาท ตามกฎหมาย ซึ่ง บางบริษัทประกันฯ ก็ ทำตรงไป ตรงมาบางบริษัทประกันฯ ก็(อาจมี) วิ่งคดี หรือ บางบริษัทประกันฯ เชี่ยวชาญ มองเกม ขาด ก็จะ แนะนำให้ลูกค้า มีการบรรเทา ผลคดี หรือ ช่วยเหลือ คู่กรณี ของตน ทางด้านมนุษย์ธรรม เป็นต้น เคลม ฉ้อฉล เกิดขึ้น ได้กับ พนักงานเคลม ที่เรียก หรือ ถูกฝ่ายตรงข้าม ท่านเสนอ ให้ สินบน เพื่อเขาจะได้เป็นฝ่ายถูกหรือไม่ก็ บวกเพิ่ม ค่ารักษาพยาบาล ค่าปลงศพ ฯลฯ เป็นต้น ซึ่ง ก่อน นัดจ่าย ค่าสินไหมทดแทนต่างๆท่านควร ตรวจสอบกับผู้บริหารของ บริษัทประกันภัยให้ชัดเจนก่อนทุกครั้ง อย่าลืมโทรศัพท์เข้าไปสอบถามด้วยตนเองกับ ฝ่ายตรวจสอบของบริษัทประกันภัย หรือ ผู้จัดการสินไหมฯก็ได้ครับ ท่านจะได้รู้ว่าถูกใครเป็น ผู้เอาเปรียบท่าน กันแน่ บางครั้ง บริษัทประกันฯ อาจเอาเปรียบท่าน ก็ควรเจรากันใหม่ ให้ยุติ ถ้าไม่ยุติ หรือ เห็นว่า ไม่ยุติธรรม ก็ให้ติดต่อ สายด่วน กรมการประกันภัยได้ ที่เบอร์ 1186 ครับ

 

                              สุดท้ายนี้ ขออวยพร ให้ท่านผู้อ่าน ขับขี่ ยวดยานพาหนะ ของท่าน ด้วย ความระมัดระวัง เดินทาง โดยปลอดภัย แล้วจะมาเขียน บทความ ให้ท่านอ่านใหม่ครับ 

 

                                                                                     สวัสดีครับ จาก จั่นเจา ประกันภัย

บทความจากคุณจั่นเจา www.one2car.com